แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) 2567
สําหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ตําแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชํานาญการพิเศษ
ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
ตําแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชํานาญการพิเศษ
ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตำแห่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ซึ่งเป็นตำแหน่งและวิทยฐานะที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 12 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวิชา ท30210 วรรณคดีมรดก 10 ชั่วโมง/สัปดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชา กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ ฯลฯ
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 10 ชั่วโมง/สัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการ คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
สภาพการเรียนการสอนภาษาไทยในปัจจุบัน พบว่ามีปัจจัยที่ทำให้การเรียนการสอนภาษาไทยโดยเฉพาะสาระที่ 5 วรรณคดีและวรรณกรรม ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะผู้เรียนขาดทักษะในการอ่าน ปัจจุบันการอ่านหนังสือน้อยลงส่วนใหญ่ผู้เรียนจะเสพติดสื่อโซเชียล ผลตามมาคือผู้เรียนมีปัญหาด้านต่างๆ คือด้านสภาพร่างกาย สภาพจิตใจขาดความอดทน ความใส่ใจในการเรียนลดลงสภาพสติปัญญา สภาพสังคม สภาพอารมณ์ผู้เรียนจะขาดความกระตือรือร้น และทัศนคติของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนรายวิชาวรรณคดีที่มีเนื้อหาการอ่านเป็นส่วนใหญ่ ไปในทางที่ไม่พึงประสงค์คือผู้เรียนอ่านแล้วไม่สามารถบอกได้ว่าอ่านอะไร โดยเฉพาะการอ่านวรรณคดี ซึ่งเนื้อหาวิชาเป็นวรรณคดีมรดกที่ตัดตอนมาให้นักเรียนได้เรียน เป็นตอนๆและเป็นบทประพันธ์ประเภทร้อยกรอง และต้องถอดบทประพันธ์เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจบทเรียนมากยิ่งขึ้นผู้สอนจึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาการอ่านโดยการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อพัฒนาการอ่านวิเคราะห์ และออกแบบกิจกรรมเรียนรู้ให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้เรียนได้รับความรู้พื้นฐานในการอ่านแบบวิเคราะห์เพื่อจะนำไปต่อยอดในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนรายวิชา ท30210 วรรณคดีมรดก (วิชาเพิ่มเติม) และจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ต่อไป
1.ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการแสดงคิดเห็น โดยครูตั้งคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน เช่น
-นักเรียนเคยแสดงความคิดเห็นหรือไม่ หากนักเรียนเคย แสดงความคิดเห็นต่อสิ่งใด เช่น แสดงความคิดเห็นต่อการร้องเพลงของเพื่อน แสดงความคิดเห็นต่อการแต่งกายของเพื่อน แสดงความคิดเห็นต่อรสชาติอาหารที่แม่ทำ เป็นต้น
-นักเรียนคิดว่าการแสดงความคิดเห็นเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ อย่างไร
-นักเรียนเคยอ่านบทความการแสดงความคิดเห็นไม่ หากเคยนักเรียนคิดว่าบทความแสดงความคิดเห็นมีความแตกต่างจากการแสดงความคิดเห็นโดยทั่วไปที่เราแสดงหรือไม่ อย่างไร เพื่อเป็นการกระตุ้นความคิด ว่าการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวคือการวิเคราะห์นั่นเอง และเป็นการนำเข้าสู่บทเรียน
2. ขั้นสอน
ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 4-5 กลุ่มเพื่อสะดวกในการจัดกิจกรรมและเพื่อให้นักเรียนได้ร่วมงานช่วยเหลือกันภายในกลุ่ม
2.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มรับแบบฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการอ่านวิเคราะห์ เรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์เบื้องต้น
2.2 ครูอธิบายการใช้แบบฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการอ่านวิเคราะห์ เพื่อประการจัดการเรียนรู้เรื่องการพัฒนาการอ่าน ตามขั้นตอนให้นักเรียนฟัง
2.3 นักเรียนศึกษาและครูร่วมกันอภิปราย ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการอ่าน จากแบบฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการอ่านวิเคราะห์ แล้วสรุปความรู้ที่ได้จากการอภิปราย โดยตอบคำถาม และเปิดโอกาสให้นักเรียนได้สอบถามข้อสงสัย (ชั่วโมงที่ 2)
2.4 นักเรียนแต่ละกลุ่ม ทำแบบฝึกหัดที่ 1 – 4 ในแบบฝึกฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการอ่านวิเคราะห์
2.5 นักเรียนในกลุ่มส่งแบบฝึกเพื่อให้ครูตรวจผลงานเพื่อตรวจสอบความรู้ของนักเรียน
2.6 ครูส่งแบบฝึกคืนนักเรียน ร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัด และให้นักเรียนแก้ไขข้อที่ยังตอบคำถามไม่ถูกต้องให้เข้าใจถูกต้อง
3. ขั้นสรุปและประเมินผล
3. นักเรียนสรุปความรู้จากบทเรียนใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการอ่าน จากแบบฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการอ่านวิเคราะห์ แล้วสรุปความรู้ที่ได้ลงในสมุด
ศึกษาและวิเคราะห์หลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ศึกษาและวิเคราะห์สภาพปัญหาผู้เรียน กำหนดกรอบเนื้อหา เรื่องวรรณคดีและวรรณกรรม กำหนดระยะเวลาในการจัดกิจกรรมออกแบบและสร้างนวัตกรรมที่ใช้เป็นสื่อเอกสารเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จัดทำแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู็ู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษปีที่ 6/9 - 6/13 โรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม จำนวน 184 คน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้สูงขึ้น และมีผลการเรียนระดับ 3 ขึ้นไปร้อยละ 70
3.2 เชิงคุณภาพ
ได้นวัตกรรมที่ใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6